ในทุกๆปีคนไทยต้องเจอ PM 2.5 บั่นทอนสุขภาพ จนเราต้องคอยดูแลตัวเองกับปัญหาฝุ่น กฟผ. ไม่นิ่งนอนใจในปัญหานี้ของคนไทย เร่งติดตั้ง Sensor ภายใต้โครงการพัฒนาแอปพลิเคชัน Sensor for All ให้ครบทั้ง 76 จังหวัด รวมแล้วกว่า 200 จุดทั่วประเทศ เมื่อปี 64 ที่ผ่านมา ให้ประชาชนเข้าไปติดตามเฝ้าระวังและวางแผนการใช้ชีวิตประจำวันได้แบบ Real Time ผ่าน www.sensorforall.com หรือแอปพลิเคชัน Sensor for All รวมถึงจอแสดงผลคุณภาพอากาศตามจุดต่าง ๆ ในพื้นที่ทั่วประเทศ ซึ่งเป็นโครงการที่อยู่ภายใต้แผนการจัดการพลังงานและสิ่งแวดล้อมทางอากาศของ กฟผ. เพื่อจัดการปัญหาด้านคุณภาพอากาศและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ช่วยลดภาวะโลกร้อน และสนับสนุนเป้าหมายสู่ Carbon Neutrality
มาปีนี้ทาง กฟผ. ยังคงเดินหน้าขับเคลื่อนโครงการนี้ต่อเนื่อง โดยร่วมมือกับกระทรวงพลังงาน ติดตั้งเซ็นเซอร์เพิ่มจากเดิมที่มีอยู่สองร้อยกว่าจุดให้เป็น 500 จุดทั่วประเทศ เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ต่างๆ มากขึ้น พร้อมเชื่อมโยงข้อมูลคุณภาพอากาศร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ ในแอปพลิเคชัน Air4Thai และมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ในแอปพลิเคชัน Dustboy ทำให้มีข้อมูลแสดงในผล Sensor for All รวมกว่า 1,200 จุด ครอบคลุมทั่วประเทศ
งานนี้ประชาชนและหน่วยงานต่าง ๆ สามารถเฝ้าระวังและวางแผนการใช้ชีวิตประจำวัน ผ่านข้อมูลคุณภาพอากาศจากเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศที่ติดตั้งและเชื่อมโยงเครือข่ายทั่วประเทศ มากกว่านั้น ข้อมูลเหล่านี้จะเป็นประโยชน์อย่างมากกับงานด้านสาธารณสุขที่สามารถอ้างอิงข้อมูลคุณภาพอากาศมาใช้ในการติดตามเฝ้าระวังอาการคนกลุ่มเสี่ยงด้านทางเดินหายใจได้เช่นกัน
มองว่างานนี้น่าจะเป็นประโยชน์ให้กับประชาชนมากขึ้นแน่นอน หลังจากที่เราเจอปัญหามลพิษทางอากาศมานาน ทั้งฝุ่นควันมลภาวะต่าง ๆ โดยที่หลายครั้งที่ประชาชนไม่สามารถคาดเดาได้ว่าช่วงไหน เวลาไหน ที่อากาศกำลังแย่ จึงไม่สามารถรับมือหรือหาทางป้องกันตัวเองจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ปกติได้ทันท่วงที แต่จากนี้ไปคิดว่าเราน่าจะรับมือและหาวิธีป้องกันตัวเองได้มากขึ้นจากโครงการนี้