ใคร ๆ ก็ต่างจับตามองประเทศจีนที่เป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้พลังงานมากที่สุดติดอันดับต้น ๆของโลก แต่นั่นมานำมาซึ่งตำแหน่งพ่วงท้ายอีกอย่างคือ เป็นผู้ปล่อยก๊าซเรือนกระจกรายใหญ่เช่นกัน
ในช่วงหน้าร้อนของประเทศจีนปีนี้นั้นน่าจะร้อนกว่าปีไหน ๆ ส่งผลให้ปริมาณการใช้ไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะเดือนก.ค.ที่ผ่านมา จีนมีการนำเข้าถ่านหินทั้งสิ้น 23.52 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนมิ.ย. มากถึง 24% ทำให้โรงงานผลิตไฟฟ้าต้องนำเข้าถ่านหินเพิ่มเติมจากหลาย ๆ แหล่ง และแหล่งที่สำคัญนั่นคือจากรัสเซียซึ่งนำเข้ามากถึง 7.38 ล้านตัน เพื่อให้เพียงพอต่อความต้องการในทุกภาคส่วนของประเทศ ซึ่งเรื่องนี้ก็ทำให้ทั่วโลกกังวลเกี่ยวกับเรื่องการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของจีนไม่น้อย เนื่องจากไม่มีความมั่นใจในเรื่องของกระบวนการผลิตที่จะสามารถบำบัดได้อย่างดีมากพอหรือไม่ ในขณะที่ประเทศไทยเราก็มีโรงไฟฟ้าถ่านหินที่อยู่ในความดูแลของ กฟผ. ที่มาเป็นหน่วยงานหลักในการช่วยกระจายเชื้อเพลิงในรูปแบบพลังงานไฟฟ้า แต่เรามีการติดตั้งอุปกรณ์ควบคุมดักจับคาร์บอนที่ทันสมัย ได้นำองค์ความรู้ด้านดิจิทัล ระบบอัตโนมัติ และ AI เข้ามาช่วยในการบริหารจัดการองค์กร รวมถึงระบบภายในโรงไฟฟ้า การวิเคราะห์ข้อมูลทางด้านการปล่อยคาร์บอน และผลกระทบทางด้านสิ่งแวดล้อม จึงทำให้เราสามารถมั่นใจได้เต็มร้อยว่าการใช้พลังงานถ่านหินไม่ว่าจะฤดูไหนเราก็ไม่ปล่อยคาร์บอนไปรบกวนโลกอย่างแน่นอน
